Sunday, September 17, 2017

power of your mind

Today I feel tried because  I  went to bed late  two days ago and I can't sleep all night. On Sunday  morning I fell sleepy all day but I meditated by close my eyes and stop thinking and then I pray  with Dhammakaya Pagoda  which have 1 million buddha. My mind is clear. when I come back home I sleep all night and woke up early. I worked until 8 am. when I had breakfast. I pray at home and practiced meditation about  35 minutes. when I open my eyes. My mind is very clear. I feel good. 

I think if  your mind is clear. You can do everything is very good and If  your mind isn't clear. You can't do everything or isn't good. The best thing you  should  practice medition after you get up about 15-30 minutes and before go to bed 15-30 minutes. for clear your mind and relax.

ในภาพอาจจะมี 8 คน, ผู้คนกำลังนั่ง และ เด็ก


โอยเอาซะเหนื่อยเลย ไม่ค่อยได้เขียน เรื่องราวเป็นภาษาอังกฤษ แต่ว่าเห็นว่าเรื่องนี้มันน่าจะมีประโยชน์กับคนต่างชาติ ที่เขากำลังแสวงหาวิธีที่ทำให้เขาผ่อนคลายสบายใจ ก็เลยขอเขียนเป็นภาษาอังกฤษสักหน่อย เพราะเห็นว่ามีคนจากหลายประเทศเข้ามาอ่านบล็อกนี้ จริงๆแล้วเรื่องราวก็คือว่า ตัวเราเนี่ยนอนไม่หลับ ไม่รู้เกิดจากอะไร ออกกำลังกายหนักไป หรือ อินเลิฟมากไปก็ไม่รู้ ฟังเพลงหวานๆ แล้วแอบคิดถึงใครบางคนจนนอนไม่หลับ แต่ก็เอาเถอะนะ  พอนอนไม่หลับแล้วเป็นไงล่ะ ง่วงทั้งวันน่ะสิ อารมณ์ก็มึนๆ งง แต่ว่าโชคดี วันอาทิตย์ไป วัดก็เลยได้สวดมนต์ นั่งสมาธิ อารมณ์ก็เลยนิ่งๆ แต่ว่าความง่วงยังอยู่ใจก็ยังไม่ว่างเท่าไร  รู้สึกว่าหมดแรง หมดพลังนะ พอมาเช้าวันนี้ ตื่นมาแต่เช้าทำงานได้ถึง 8 โมง ก็เริ่มรู้สึกเหนื่อยล้า ปวดหัวข้างเดียว ตุ๊บๆๆๆ นี่แหละมั้งอาการของคนเส้นเลือดในสมองแตก ก็เลยรู้สึกตัวว่า คิดเยอะไปแล้ว ต้องปล่อยวางก็เลย ลองเปลี่ยนอิริยาบถ ไปสวดมนต์ นั่งสมาธิ สัก 1 ชั่วโมง ผ่านไป 1 ชั่วโมง เฮ้ย อาการปวดหัวหายไป อารมณ์แจ่มใส ใจเคลียร์เลยอ่ะ เจ๋งสุด จริงๆนะ เลยมีความคิดดีๆได้มาเขียนบล็อดไง ใจคนเรามีพลังมากมายยิ่งกว่าขีปนาวุธ จะทำลายล้าง หรือจะสร้างสรรค์ก็ได้ ขอแค่ใจสงบ มีพลังควรค่าแก่การงาน เพียงแค่เราหลับตาเบาๆ ผ่อนคลายสบาย ง่ายๆเพียงเท่านี้เองจริงๆ




Saturday, August 26, 2017

Trip in Khaoyai Korat

     About on January 2017. My family went to Khaoyai for New year .  My trip  didn't plan because at night 31 st december 2016 . we pray across year. Thai people believed that pray is good thing for your life. So we arrived my hotel at Khaoyai at 6.00 pm on 1st January 2017.  When I saw it . It's amazing. Oh!!! this is cow boy town in Thailand



                      This is Panther creek resort khao yai
                                               https://www.youtube.com/watch?v=Y_PIjbrjFhk























Thursday, July 13, 2017

เมื่อหัวใจมีความรัก

ในวันที่หัวใจมีความรัก โลกทั้งโลกก็ดูเป็นสีชมพู ทำอะไรก็ดูสดชื่น ยิ้มหน้าบานไปทั้งวัน มีความสุข จริงๆ วันนี้ ก็แค่อยากระบายความรู้สึกดีๆ ความรักสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน และไม่เลือกเวลาและสถานที่ และบางครั้งก็ไม่เลือกด้วยว่าคนนั้นเป็นใคร จนบางครั้ง ต้องเกิดปัญหาความไม่เหมาะ ไม่ควรกัน แต่เอาเถอะนะ ไม่ว่าความรักจะเกิดขึ้นกับใคร แต่ถ้าเรา สามารถทำให้มันเป็นความรักที่ดี เราก็จะมีความสุข แต่กว่าจะเจอความรักจริงๆก็ต้องผ่านบทเรียนของความรักมามากมาย เสียทั้งน้ำตา เสียทั้งหัวใจ บางคนถึงกับเสียทรัพย์สิน ไปจนถึงเสียชีวิต นี่ไง ความร้ายกาจของความรัก แต่ก่อนที่เราจะรักใคร เราควรหันมารักตัวเองมากๆก่อนดีมั้ย ที่บอกว่ารักตัวเองไม่ได้หมายความว่า เห็นแก่ตัวนะ แต่หมายถึงว่า รักตัวเอง ในสิ่งที่ดี ทำตัวเองให้น่ารัก ไม่ใช่ว่าอกหัก ก็ประชดรัก ทำตัวเสียหาย ผลลัพธ์กลับมา ก็มาตกที่เราอยู่ดี คนที่ทิ้งเราไป เค้าไม่ได้มาสนใจหรอก เค้าก็ไปมีความสุขของเค้าแล้วล่ะ เพราะฉะนั้น การรักตัวเอง ก็ต้องหาวิธีแก้ปัญหาให้ตัวเองมีความสุข ถ้าเหงามากก็ไปเดินเล่น ดูหนัง ฟังเพลง กินของอร่อยๆ หา   กิจกรรมใหม่ๆทำ ถ้ายังไม่ดีขึ้น ก็หันหน้าเข้าวัดปฏิบัติธรรม ดูบ้าง เพราะวิธีนี้ อาจทำให้เรารักในตัวเองมากขึ้น เห็นค่าในตัวเองมากขึ้น จนรู้สึกว่าอยู่กับตัวเองดีที่สุดแล้ว แต่ถ้าใครอยากจะเก็บเธอคนนั้นเอาไว้ในใจ ก็ต้องเก็บไว้ให้ถูกที่ ให้เค้าเป็นกำลังใจให้เราได้ทำในสิ่งดีๆ เราก็จะได้ไม่ต้องมานั่งทุกข์ ไม่ต้องมานั่งคาดหวัง แล้วเราจะรู้สึกว่าความรักของเราใหม่สด อยู่ตลอดเวลา นึกถึงเค้าแล้วแอบอมยิ้ม อะไรแบบเนี้ย
 







รักนะคะ






Friday, January 6, 2017

ในวันที่อยากเที่ยว

ก่อนปีใหม่ ได้ไปเที่ยวหลายที่ แต่ก็ไม่ไกลจากบ้านเท่าไรนัก ใกล้ๆก็แค่ อ.วังน้ำเขียว อยากกินสตอเบอรี่สดๆ ก็เลยจัดไปสักหน่อย สนุกดีอากาศหนาวแต่แดดร้อนไปนิด แต่ก็ไม่สนใจ ก็ยังเอาหน้าสู้แดดเพื่อถ่ายรูปมาโชว์เพื่อนๆ ส่วนพ่อกับแม่เหมือนมาถ่ายพรีเวดดิ้งเลยอ่ะ สนุกดี มีเพื่อน



















Tuesday, March 8, 2016

วัดพระธรรมกายที่ฉันรู้จัก



วัดพระธรรมกายที่ฉันรู้จัก คือ บ้านหลังที่สอง เมื่อเข้าไปถึงก็รู้สึกอบอุ่น ปลอดภัย เหมือนได้อยู่ท่ามกลางพี่น้องที่มีหัวใจรักพระพุทธศาสนาเหมือนกัน โดยมีหลวงพ่อธัมมชโย เป็นผู้นำ เป็นพระพ่อที่คอยให้กำลังใจลูกๆในการทำความดี หลวงพ่อสอนให้พวกเรา รักในการสร้างบารมี โดยท่านจะทำให้ลูกดูเป็นตัวอย่างโดยใช้ชีวิตเป็นเดิมพัน ในการทำงานพระพุทธศาสนา หัวใจหลวงพ่อยิ่งใหญ่มาก ท่านหวังให้ทุกคนได้พบความสุขที่แท้จริง ด้วยการนั่งสมาธิ ท่านจะยำ้อยู่บ่อยๆว่าให้พวกเรา แบ่งเวลานั่งสมาธิกันให้มากๆ มากกว่าการทำงานด้านอื่น


ท่านสอนให้พวกเรารักบุญกลัวบาป ท่านสอนว่า เรามีบุญมากที่เกิดมาเป็นมนุษย์และสามารถนั่งสมาธิจนสามารถเข้าถึงพระธรรมกายที่เป็นที่พึ่งที่ระลึกภายในตัวได้ เราจะพบความสุขอย่างแท้จริง ท่านทำให้พวกเราเห็นคุณค่าในตัวเองมากขึ้น และยังนำสิ่งดีๆเหล่านี้ไปยังทุกคนที่อยู่รอบตัวเราได้ ที่วัดพระธรรมกายมีงานบุญให้เราได้ทำอย่างต่อเนื่อง ทำให้ชีวิตของพวกเราได้นึกถึงแต่สิ่งดีๆ มีความสุขที่ได้รู้ว่าปัจจัยของพวกเราที่ถวายหลวงพ่อไปนั้น ได้นำไปใช้ในงานพระศาสนาอย่างเต็มที่ พูดถึงวัดพระธรรมกายก็ต้องนึกถึงความสุข ความสะอาด ความเป็นระเบียบ มีแหล่งเนื้อนาบุญ มีพระที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ พระแท้ มีศีลจารวัต ที่งดงาม น่าเคารพศรัทธา น่ากราบไหว้ ที่สำคัญมีมหาธรรมกายเจดีย์ซึ่งมีพระพุทธรูปเป็นล้านๆองค์ที่เกิดจากความศรัทธาในพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของสาธุชน จึงนำปัจจัยมาสร้างองค์พระเพื่อให้เป็นที่เคารพกราบไหว้ไปถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน วัดพระธรรมกายสร้างคนดีมากมาย เพราะเมื่อทุกคนเข้าใจในคำสอนพระพุทธเจ้าแล้วก็ไม่อยากมีใครจะทำบาป จึงกลับตัวเป็นคนดี แก้ปัญหาให้กับประเทศชาติได้มากมาย ฉันรักวัดพระธรรมกายจริงๆ

Tuesday, November 11, 2014

เรื่องเล่าจากยาย

วันก่อนได้มีโอกาสสอนเด็กอ่าน story ภาษาอังกฤษ ก็ไม่คิดว่าฝรั่งเค้าจะมีสำบัดสำนวนได้ขนาดนี้ แต่อ่านแล้วได้กำลังใจเยอะเลย ก็อยากเอามาฝากเพื่อนๆที่กำลังเจอเรื่องราวในชีวิตที่ทำให้ท้อแท้ หรือใครที่มีความสุขอยู่แล้วถ้าได้อ่านก็รู้สึกดี และสามารถนำไปเล่าต่อเพื่อเป็นกำลังใจให้กับคนที่เรารักได้ค่ะ
เรื่องนี้มีชื่อว่า Carrot   Egg  or Coffee  เรื่องนี้พูดถึงบทสนทนาระหว่างคุณยายกับหลานสาว ก่อนจะเริ่มเรื่อง นึกถึงยายของตัวเองขึ้นมาซะงั้น แม้ว่าท่านจะเสียไปนานแล้ว แต่คุณความดีของท่านก็ยังอยู่  หลายคนตอนเด็กๆก็เคยอยู่กับยายเพราะพ่อแม่ไม่มีเวลาต้องไปทำงาน ผู้เขียนก็เหมือนกัน เนื่องจากว่าคุณแม่เป็นลูกผู้หญิงคนเล็ก พอแต่งงานกับคุณพ่อแล้ว ก็ยังไม่ได้ย้ายออกไป ก็ยังอยู่บ้านหลังเดิมดูแลคุณตาและคุณยายอยู่ พอผู้เขียนจำความได้ก็เจอคุณยายและคุณตาแล้ว จึงทำให้สนิทกับท่านทั้งสอง แต่ช่วงหลัง คุณยายป่วยเป็นอัมพฤกษ์ ก็เลยไปไหนไม่ได้แต่พอช่วยเหลือตัวเองได้ อยู่บ้านท่านก็จะสวดมนต์ นั่งสมาธิ  เมื่อก่อนที่ยังไม่ป่วย ท่านก็จะตื่นมาใส่บาตรพระที่หน้าบ้านทุกวัน ภาพเหล่านี้ทำให้ติดตาติดใจผู้เขียนมาตลอด จนช่วงบั้นปลายของท่าน หน้าตาของท่านสดใส เพราะจิตใจที่ดี ทำให้ใครเห็นก็พลอยสดชื่นไปด้วย ตัวผู้เขียนเองก็จะชอบไปนั่งคุยด้วยบ่อยๆ ไม่เคยรู้สึกเบื่อเลย ใครว่าคนแก่คุยไม่สนุก ท่านมีเรื่องต่างๆมาเล่าให้ฟัง เป็นข้อคิดดีๆให้กับเรา วันสุดท้ายที่ท่านจากไป เหมือนคนนอนหลับ ไปเฉยๆ หน้าตาก็ยังสดชื่นเหมือนเดิม พอมาเจอเรื่อง Carrot   Egg  or Coffee ก็ขอเล่าสักหน่อย โอเคเข้าเรื่องกันดีกว่าค่ะ หลานสาวไปเยี่ยมยายแล้วเล่าเรื่องราวชีวิตของเธอให้ยายฟัง เธอบอกกับยายว่าเธอเหนื่อยกับชีวิตที่จะต้องต่อสู้กับอะไรมากมาย มันดูเหมือนว่าปัญหาจะเกิดขึ้นมาเรื่อยๆ

ยายพาหลานสาวเข้ามาในห้องครัว แล้วเอาหม้อมา 3 ใบ ใส่นำ้ แล้วนำไปตั้งไฟ ยายไม่พูดอะไร นั่งรอจนนำ้เดือด หม้อแรกนำแครอทใส่ลงไป หม้อที่สองใส่ไข่ลงไป หม้อที่สามนำเมล็ดกาแฟใส่ลงไปแล้วยายก็นั่งรอโดยที่ไม่พูออะไรอีก  20 นาทีต่อมา ยายตักแครอท ไข่ ขึ้นมาใส่ชาม และเทกาแฟใส่ชาม แล้วหันไปถามหลานสาวว่าเธอเห็นอะไร หลานสาวตอบว่า แครอทดูนิ่มขึ้น ไข่เมื่อแกะเปลือกออกแล้วก้ดูแข็งขึ้น และยายก็ให้หลานสาวลองจิบกาแฟ แล้วอธิบายว่า  ของสามอย่างเปรียบเหมือนคน พอเจออุปสรรคหรือปัญหานั่นก็คือนำ้ร้อน แครอทจากแข็งเปลี่ยนมาอ่อน ไข่จากที่เหลว แต่ถูกปกป้องด้วยเปลือกไข่บางๆ แต่พอเจอนำ้ร้อนก็เปลี่ยนมาแข็ง ส่วนเมล็ดกาแฟ จากที่แข็งๆเมื่อถูกนำ้ร้อนก็กลายเป็นนำ้ ยายจึงหันมาถามว่าเธอเป็นอันไหน 
อุปสรรคหรือปัญหาทำเราเข้มแข็ง แข็งแกร่งขึ้น ยิ่งปัญหามากเท่าไร นั่นหมายถึงเรากำลังเข้าใกล้ความสำเร็จมากเท่านั้น แล้วคุณล่ะคะ ลองถามตัวเองดูว่าคุณจะเป็น แครอท ไข่ หรือกาแฟ ??????